ลูกเต๋า การเกิดขึ้นของลูกเต๋าบนโลกใบนี้สามารถย้อนกลับไปได้ถึง 5,000 ปีที่แล้ว ซึ่งขุดค้นพบที่ในตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศอิหร่านพร้อมกับชุดเกม Backgammon และยังมีการขุดค้นพบอีกจากพื้นที่ของชาวมองโกลโบราณ รวมถึงประเทศข้างเคียง
คนยุคโบราณใช้กระดูกข้อเท้าหรือข้อเข่าของแกะ วัว ม้าในการนำมาทำเป็นลูกเต๋า นอกจากนั้นยังมีการใช้ก้อนหิน งาช้าง เหล็ก ไม้ นำมาเป็นวัสดุของลูกเต๋า จนมาปัจจุบัน ผู้ผลิตนิยมใช้พลาสติกสังเคราะห์มาทำเป็นลูกเต๋าในรูปทรงและจำนวนหน้าที่แตกต่างกันไป
นอกจากลูกเต๋าจะมีบทบาทในการเล่นเกม ลูกเต๋ายังถูกนำมาใช้ในการทำนายโชคชะตาและการพนันตั้งแต่สมัยยุคกลางโดยชาวกรีกโบราณและชาวโรมันชนชั้นสูง ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของลูกเต๋า 20 หน้าตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 2 อีกด้วย
ลูกเต๋าในโลกปัจจุบันสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 แบบ ได้แก่ ลูกเต๋าแบบตะวันตกที่ไม่มีการแต่งเติมสีใด ๆ ลูกเต๋าแบบเอเชียที่จะแต้มสีที่แตกต่างบนเลข 1 และ 4 และลูกเต๋าที่ใช้ในคาสิโนที่มีขนาด 0.75 นิ้วในแต่ละด้าน ซึ่งการผลิตจะคำนึงถึงคุณสมบัติให้ลูกเต๋าโปร่งแสง มีน้ำหนักที่เท่ากัน มีการเจาะลายในอัตราส่วน 0.0017 นิ้วและใส่สีที่มีความหนาแน่นเพื่อให้น้ำหนักลูกเต๋าแต่ละด้านเท่ากันกับน้ำหนักพลาสติกที่ถูกเจาะออกไป และมีเลขรหัสระบุอยู่เพื่อป้องกันการสับลูกเต๋าและการโกงในรูปแบบต่าง ๆ
นอกจากลูกเต๋าทรงลูกบาศ์ก 6 หน้าที่มีการผลิตกันแล้ว ยังมีการผลิตลูกเต๋าที่มีจำนวนหน้าแตกต่างกันเพื่อการเล่นการ์ดเกม หรือบอร์ดเกมดังต่อไปนี้
ลูกเต๋า 4 หน้า (Triangular) ลูกเต๋าทรงปิระมิดที่แต่ละหน้าจะมีตัวเลข 3 หมายเลข และตัวเลขที่อยู่บนสุดของยอดแต่ละหน้าจะเหมือนกัน
ลูกเต๋า 8 หน้า (Octahedron) ลูกเต๋าทรงปิระมิดประกบท้ายกัน ซึ่งมีตัวเลขตั้งแต่ 1 – 8 และผลลัพธ์เมื่อบวกในฝั่งตรงข้ามจะได้ 9 แต้ม ลูกเต๋า 10 หน้า (Pentagonal Trapezohedron) เป็นลูกเต๋าที่มีหน้าทรงว่าวประกบตัวในฝั่งตรงข้ามและเรียงกันไปจนครบ 10 หน้า มีเลขตั้งแต่ 0 – 9 หรือ 0 – 90 เพิ่มขึ้นทีละ 10 แต้ม และผลลัพธ์เมื่อบวกในฝั่งตรงข้ามจะได้ 11 หรือ 110 แต้ม ลูกเต๋า 12 หน้า (Dodecahedron) ลูกเต๋าแต่ละหน้าเป็นทรงห้าเหลี่ยม และผลลัพธ์เมื่อบวกในฝั่งตรงข้ามจะได้ 12 แต้มลูกเต๋า 20 หน้า (Icosahedron) เป็นลูกเต๋าที่มีหน้าเป็นทรงสามเหลี่ยมด้านเท่า และเป็นลูกเต๋าที่พบเห็นได้ง่ายที่สุดสำหรับผู้เล่นการ์ดเกม Magic The Gathering และผลลัพธ์เมื่อบวกในฝั่งตรงข้ามจะได้ 21 แต้ม
นอกจากนี้ยังมีการผลิตลูกเต๋า 100 หน้าที่เรียกว่า Zocchihedron ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.5 นิ้ว และมีพลาสติกผิวคล้ายลูกกอล์ฟครอบอีกชั้นเพื่อให้ตั้งได้ง่ายขึ้น ซึ่งประดิษฐ์โดย Lou Zocchi ใช้เวลาในการออกแบบ 3 ปี ออกวางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1985 เพื่อใช้ในการเล่นบอร์ดเกมที่มีการคำนวณโอกาสจากการทอยตั้งแต่ 1 – 100%
ลูกเต๋า 100 หน้า หรือที่เรียกว่า Zocchihedron นั้นไม่ได้รับความนิยมเท่าใดนัก เพราะผู้เล่นนิยมการใช้ลูกเต๋า 10 หน้า 2 ลูกที่ต่างสี หรือมีตำแหน่งเป็นหลักสิบและหลักหน่วยใช้ทอยพร้อมกันมากกว่า และลูกเต๋า 100 หน้าใช้เวลาหลายวินาทีเพื่อหยุดและทราบผลในการทอยแต่ละครั้ง
ลูกเต๋าเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการสุ่ม โดยการถือลูกเต๋าไว้แล้วกลิ้งออกมา ลูกเต๋าจะให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นเลข 1-6 โดยดูจากด้านบนของลูกเต๋า ซึ่งลูกเต๋าจะใช้ในเกมต่างๆ หรือโดยทั่วไป ลูกเต๋าเป็นวัตถุทรงลูกบาศก์หรือทรงเรขาคณิตอื่นๆ ซึ่งแต่ละหน้ากำกับด้วยสัญลักษณ์ต่างๆ ใช้เพื่อหาผลลัพธ์โดยสุ่ม
ลูกเต๋าธรรมดา เป็นลูกบาศก์ ขนาดประมาณ 1-2 เซนติเมตร แต่ละหน้าระบุตัวเลขตั้งแต่ 1 ถึง 6 (ซึ่งมักจะเป็นจุด) และลูกเต๋าโดยทั่วไปแล้ว ผลรวมของหน้าตรงข้ามจะเป็น 7 เสมอ ทำให้ลูกเต๋ามีรูปแบบที่เป็นไปได้อยู่สองทาง คือ 1, 2 และ 3 ถูกจัดเรียงตามเข็มนาฬิกา หรือทวนเข็มนาฬิกา
เราโยนลูกเต๋า เพื่อหาผลลัพธ์โดยสุ่ม สำหรับการพนัน หรือเกมต่างๆ แต่ทว่า ตัวเลขบนลูกเต๋าของเล่นนั้น ตัวเลขมาก วัตถุที่อยู่บนหน้าลูกเต๋าจะถูกนำออกไปมาก ทำให้ลูกเต๋านั้นมีความยุติธรรมน้อยลง ลูกเต๋าในคาสิโนจะใช้การทำเครื่องหมายบนผิวหน้า ทำให้ความยุติธรรมมีมากขึ้น และผลลัพธ์ที่ได้จะถูกสุ่มเท่าๆ กัน
ลูกเต๋าอาจใช้โยนครั้งละหนึ่งลูกหรือมากกว่าก็ได้ โยนจากมือ ถ้วย หรือกล่องที่ถูกออกแบบไว้ ลงบนพื้นเรียบ หน้าของลูกเต๋าที่ออก คือหน้าที่อยู่บนสุดของลูกเต๋า ซึ่งตัวเลขที่อยู่หน้าบนสุด คือผลลัพธ์ที่ออกมา
เกมแครปส์ เป็นเกมลูกเต๋าเกมหนึ่ง ซึ่งต้องโยนลูกเต๋าสองลูกพร้อมกัน และดูผลรวมของ
หน้าบนสุดของลูกเต๋าทั้งสองลูก นอกจากนี้แล้ว ลูกเต๋ายังใช้กำหนดจำนวนครั้งในการเคลื่อนไหว เช่น แบกแกมมอน
อ้างอิง
http://www.thecardz.com/2011/02/history-type-of-dice/
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B9%8B%E0%B8%B2
= น.ส.ศิรดา มหาวีรวัฒน์ รหัสนิสิต 57010112564 รหัสวิชา 0026008 กลุ่มเรียนที่ 2 =
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น