กฎหมายแปลกทั่วโลก
ต่างชาติ ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม การกระทำบางอย่างจึงต้องห้าม เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม ไม่งั้นอาจโดนหามเข้าห้องขัง แบบยังไม่ทันได้เที่ยว มาดูกันซิว่าเรื่องเล็กนิดเดียวที่เราไม่คาดคิด แต่เจ้าบ้านเค้าติดใจอยากเอาความ กับ กฎหมายแปลกทั่วโลก
ห้ามเดินเคี้ยวหมากฝรั่งบนถนน ที่สิงคโปร์
กฎหมายแปลก “ห้ามเดินเคี้ยวหมากฝรั่งบนถนน” ถูกบัญญัติขึ้นในประเทศสิงคโปร์ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1992 เพื่อรักษาความสะอาดไม่ให้บ้านเมืองสงปรก ป้องกันคนมักง่ายกินแล้วคายมั่วซั่ว ถ้าไปสิงคโปร์แล้วเผลอเคี้ยวหมากฝรั่ง ไม่อยากถูกขัง บ้วนใส่ถังขยะไม่ทัน ให้กลืนมันลงคอไปเลย
สูบบุหรี่ผิดกฎหมาย แต่สูบกัญชาได้สบายที่ เนเธอร์แลนด์
ช่องโหว่ทางกฎหมายของเนเธอร์แลนด์ที่ยังคงเป็นเรื่องฉงน ห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ เมือง Amsterdam แต่ดูดกัญชาได้หนำใจ จะมุมไหน ก็ไม่ผิด! เอ..หรือเขาคิดอยากสร้างเสียงหัวเราะ!
ห้ามกินทุเรียนในที่สาธารณะ หลายโซนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“ทุเรียน” ผลไม้ที่โดนยี้มากที่สุดชนิดหนึ่ง หอมหึ่งสำหรับคนกิน แต่เหม็นแทบสิ้นใจสำหรับคนไม่พิศมัย แม้ห่างระยะ 10 เมตร หลายอาณาเขตทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงบัญญัติกฎหมาย “ห้ามทุเรียนปรากฎตัวในที่สาธารณะ” ถ้าเผลอออกมาล่ะ โดนวิสามัญแน่ๆ!
สาวโสดห้ามโดดร่ม ที่ Florida สหรัฐอเมริกา
ปกติกีฬาผาดโผน หวาดเสียว เหมาะยิ่งนักสำหรับวัยหนุ่มสาว ทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ แต่ไหงกลับกันที่เมือง Florida ประเทศสหรัฐอเมริกา มี กฎหมายแปลก บังคับวัยรุ่นหญิง สาวโสดที่ยังไม่ได้แต่งงาน ห้ามเล่นกีฬาพาราชูท หรือ กระโดดร่มชูชีพ ในวันอาทิตย์!? คิดเหตุผลไม่ออกจริงๆ จะรอให้เป็นคุณย่ายังซิงก็คงเล่นไม่ไหวแล้วเหอะ!
ขับไม่จูบ ที่ Eboli อิตาลี
คู่รักที่คิดจะไปฮันนีมูนที่ Eboli อิตาลี เช่ารถขับชมเมือง คงต้องคิดใหม่ ถ้าห้ามใจดูดดื่มกันขณะขับรถไม่ได้ เพราะที่นี่เข้มงวดเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนน “ขับไม่จูบ” ไม่งั้นจับ ปรับถึง 500 ยูโร ก็ประมาณ 2 หมื่นกว่าบาทบ้านเราเอ๊งงง
ห้ามใส่รองเท้ามีเสียง ที่ Capri อิตาลี
เมือง Capri ทางตอนเหนือของอิตาลี เป็นเมืองที่ซีเรียสเรื่องความสงบสุขทุกกระเบียดนิ้ว สามีภรรยาคู่หนึ่งเคยถูกจับกุมฐานทำลายความสงบ ด้วยการใส่รองเท้าแตะส่งเสียงอี๊ดอ๊าด ดังน่ารำคาญ รบกวนโสตประสาทผู้อื่น ตั้งแต่นั้นมา กฎหมายแปลก “ห้ามใส่รองเท้ามีเสียง” จึงถูกบัญญัติขึ้น
ห้ามกดชักโครกหลังสี่ทุ่ม กฎหมายน่ากลุ้ม! ที่สวิตเซอร์แลนด์
พิลึกพิลั่น! อย่างนี้ก็มีด้วย! กฎหมายแปลก ประหลาดเหลือจะคิดได้ ข้อบังคับสำหรับอพาร์ตเมนต์ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ห้ามกดชักโครกส่งเสียงดังหลัง 4 ทุ่ม บังคับไปถึงผู้ชายห้ามยืนปัสสาวะ เว้นเสียแต่มั่นใจว่าจะเงียบฉี่ (ฉี่เงียบๆ นั่นเอง) เห็นที 3 ทุ่ม 59 วิ ต้องคิดให้ดี จะอี้หรือจะอั้น ไม่งั้นต้องเก็บไว้ยาวถึงพรุ่งนี้!
อันนี้เนื่องมากจากว่าที่รัฐนี้จะเก็บเกี่ยวหัวหอมชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า wild onion เป็นหัวหอมที่มีรสอร่อยมาก แต่เหม็นมาก... ก็คือถ้าเด็กกินหัวหอมนี่เข้าไปแล้วปากเหม็นจะเป็นการรบกวนชาวบ้าน เลยต้องมีกฎหมายของรัฐข้อนี้ขึ้นมา...
ระดับหนึ่งจะเป็นระดับที่สูงที่สุด คนที่จะอยู่ในระดับสูงๆได้อย่างน้อยก็ต้องเป็นลูกหลานชาวเกาหลีเหนือแท้ๆตั้งแต่ก่อน แบ่งประเทศ คนเกาหลีเหนือไม่มีสิทธิ์ที่จะเลือกโรงเรียน เลือกอาชีพหรือเลือกอะไรเอง ต้องไปให้เจ้าหน้าที่รัฐจัดการให้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะแบ่งจากระดับที่ว่านี้ ไม่ว่าจะหัวดี เก่งเลิศยังไง ถ้าระดับต่ำก็เป็นได้แค่แรงงานระดับล่าง...
ไม่ใช่เพียงแค่การเรอเท่านั้น แต่การตดหรือทำอะไรเสียมารยาทในโบสถ์ด้วยความตั้งใจนั้นถือเป็นการผิดกฎหมายของรัฐ แน่นอนว่าถ้าไม่ตั้งใจก็ไม่เป็นไร.. แต่เค้าจะเอาอะไรมาแบ่งระหว่างความตั้งใจและไม่ตั้งใจ? ที่สำคัญคือถ้าเด็กเรอออกมา พ่อแม่ก็จะโดนจับปรับแทน... อย่างนั้นไม่ต้องเอามันไปโบสถ์ ให้มันเล่นเกมอยู่กับบ้านเป็นดีที่สุด
ห้ามแอบสอนเต้นกัน... ไม่ใช่อย่างนั้น.. ที่ว่าไม่เป็นการสาธารณะที่รวมถึงการเปิดโรงเรียนสอนเต้นเป็นการส่วนตัวด้วย เนื่องจากประเทศเกาหลีใต้ตอนนี้ ได้ข่าวแข่งขันเรื่องการศึกษาสูงมากๆ มากกว่าประเทศญี่ปุ่นอีก แน่นอนว่าพ่อแม่ที่ต้องการส่งลูกเข้าเรียนมหาวิทยาลัยศิลป์เกี่ยวกับการแสดง นอกจากจะต้องทำศัลยกรรมแปลงโฉมลูกให้ดูดีแล้ว ยังต้องให้เรียนเต้นได้หลายๆแบบตั้งแต่คลาสสิคบัลเล่ต์ไปจนถึงแนวโมเดิร์น รัฐบาลจึงออกกฎหมายนี้ขึ้นเพื่อระงับยับยั้งโรงเรียนสอยพิเศษเอกชนก็เก็บเงินขูดรีดม หาโหด.. แต่ก็เกิดการประท้วงขึ้นจนในที่สุดต้องยกเลิก... พูดง่ายๆก็คือ ยังไงพ่อแม่เค้าก็ยอมจ่าย เพื่อให้ลูกเค้าได้เรียนที่ดีๆ...
ไม่ได้เพราะกลัวเป็นอัปมงคลแก่วงศ์ตระกูลอะไร.. แต่เค้าเชื่อกันว่าแสงที่มันลอดออกมาตอนเกิดเนี่ย มันจ้า จะเป็นอันตรายแก่เด็กๆที่ชอบไปยืนมอง เลยให้ปิดประตูปิดม่าน ปิดทุกอย่างเก็บตัวอยู่กับบ้านซะ.. ส่วนคนญี่ปุ่นก็หอบลูกหอบหลานขึ้นเครื่องบินไปยืนดูถึงต่าประเทศ...
รัฐบาลกรีกต้องการแก้ปัญหาเรื่องการพนันในเกมคอมพิวเตอร์ เลยออกกฎหมายห้ามเกมคอมพิวเตอร์ซะเลยเมื่อปี 2002 แน่นอนว่ารวมถึงเกมทุกชนิดในคอมพิวเตอร์หรือแม้แต่ในมือถือด้วย ในความเป็นจริงก็มีชาวต่างชาติโดนจับแล้วหลายรายเพราะถูกค้นพบว่ามีเกมอินสตอลไว้ในมือถือหรือโน๊ตบุ๊คของตัวเองเท่านั้น...
เนื่องจากศาสนาอิสลามไม่ให้สักการะรูปลักษณ์ที่เป็นรูปธรรม.. ทั้งนี้ก็รวมไปถึงอิมเมจ คาแรคเตอร์ต่างๆก็ถือว่าไม่เหมาะสมด้วย นอกจากนี้โปเกมอนยังมีการจำหน่ายการ์ดเกมที่ถือว่ามีลักษณะเป็นเหมือนการพนัน... เลยโดนห้ามไปเลย (ยูกิโอะ คิตตี้อะไรก็คงโดนหมด)
อันนี้ไม่มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษ -_-; ขนาดรถยนต์ธรรมดาที่ญี่ปุ่นยังกำหนดไว้แค่ที่ 100 กม.ต่อชั่วโมง ว่าแต่.. ใครวะมันจะขี้จักรยานด้วยสปีด 110 กม. ได้...
หมอชื่ออานฟิน เนเซ็ท ได้ฆาตกรรมคนชรา 62 คนโดยการฉีดยาพิษเข้าที่ผิวหนังด้วยเหตุผลที่ว่า สนุก ต้องการให้ได้ตายสบายๆ เพื่อสนองความต้องการของตัวเอง เพราะเป็นโรคทางจิต เนื่องจากประเทศนอร์เวย์ไม่มีโทษประหารหรือจำคุกตลอดชีวิต จำคุก 22 ปีก็เป็นโทษสูงสุดที่ให้ได้ในตอนนั้น.. เมื่อปี 2004 อีตานี่ก็พ้นโทษ.. และตอนนี้ก็ออกมาใช้ชีวิตข้างนอกอย่างมีความสุขแล้ว @_@; (
นอกจากนอร์เวย์แล้วประเทศที่ไม่มีโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิตก็ได้แก่ เอกวาดอร์ เม็กซิโก ติมอร์ตะวันออก เป็นต้น)
ในขณะที่ฆ่าคน 62 คนจำคุกแค่ 22 ปี.. หมอนี่ขโมยแตงโมลูกเดียวจำึคุกตลอดชีวิต เนื่องจากอีตานี่ไม่มีไรกิน ก็ขโมยแตงโมในตลาดไปลูกนึง ปรากฎว่าคนอื่นเห็นก็พากันเอาอย่างไปหยิบมาบ้าง ปรากฎว่าแตงโมหายไป 25 ตัน ทางการให้เป็นความผิดนี่หมดเพราะถือว่าเป็นเพราะเริ่มขโมยคนแรก เลยโดนจำคุกตลอดชีวิต ป่านนี้ไม่รู้เป็นไงบ้าง...
เค้าก็ไม่แปลกหรอกเพราะแม่ชีเป็นตัวแทนศาสนาที่ควรให้ความเคารพ ไม่ใช่เอาชุดมาแต่งแฟนซีซี้ซัวะ.. แต่คนประเทศนี้นี่สิ... พวกชอบคอสเพลย์แม่ชีตายแน่.. โทษคือโดนปรับไม่เกิน 500 ดอล (เท่ากับทำนิวเคลียร์ระเบิด?) หรือถูกจำกัดสถานที่ 1 ปี
สำหรับประเทศอิตาลีแล้วจะมีภาษีตัวนึงที่คล้ายๆภาษีผู้บริโภค (IVA) ที่เก็บสูงถึง 20% ทำให้คนทำธุรกิจหลายรายหลีกเลี่ยงโดยการไม่ออกใบเสร็จให้.. เลยมีกฎหมายตัวนี้ขึ้นมา... ใครไปอิตาลีก็อย่าลืมรับใบเสร็จเค้่าด้วยล่ะ
= น.ส.ศิรดา มหาวีรวัฒน์ รหัสนิสิต 57010112564 รหัสวิชา 0026008 กลุ่มเรียนที่ 2 =
อ้างอิง : http://www.dek-d.com/board/view/1463319/
http://travel.mthai.com/travel_tips/16575.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น